การจัดสวนสมุนไพรสามารถทำได้ในหลายรูปแบบ ทำให้บ้านดูทันสมัยและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้าน ทั้งยังให้คุณประโยชน์มากมาย
15 ก.ย. 2566 21:00 น.

จัดสวนสมุนไพรในสไตล์โมเดิร์น ทั้งร่มรื่นและให้ประโยชน์สารพัด
การจัดสวนหน้าบ้านช่วยแต่งเติมพื้นที่สีเขียวสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับตัวบ้าน ต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์จึงถูกนำมาจัดวางตามสไตล์ที่เจ้าของบ้านแต่ละคนชอบ ทั้งไม้ดอกไม้ประดับ แต่โดยมากเรามักมองข้ามพืชอีกประเภทที่นอกจากจะเพิ่มสีเขียวแล้ว ยังมีสรรพคุณบำรุงร่างกายหรือจะเอาไปใช้เป็นวัตถุดิบในจานอาหารก็ได้ ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงพืชสมุนไพร
สวนสมุนไพรมาแรงตามกระแสสุขภาพ
ด้วยกระแสรักสุขภาพที่กำลังมาแรง ไม่ใช่แค่พืชผักส่วนครัวแต่เพียงอย่างเดียว พืชสมุนไพรก็กำลังได้รับความนิยมนำมาปลูกเป็นสวนสมุนไพรกันมากขึ้น นอกจากจะมีประโยชน์มากมายแล้ว ยังปลูกง่ายดูแลง่าย ทั้งยังเสริมแต่งให้หน้าตาสวนหน้าบ้านของเรามีความโมเดิร์นทันสมัย ตามสไตล์ที่เราชอบได้ แค่เพียงใส่ไอเดียและการจัดเรียงให้เข้าที่เข้าทางเท่านั้นเอง
ไอเดียจัดสวนสมุนไพร
สไตล์การจัดสวนสมุนไพรนั้นมีหลากหลายขึ้นอยู่กับความชอบของเจ้าของบ้าน พืชเหล่านี้สามารถเนรมิตพื้นที่หน้าบ้านให้ร่มรื่นมีความสวยงามไม่แพ้พืชชนิดอื่นเลย ยกตัวอย่างเช่น การจัดสวนสมุนไพรด้วยโซนนิ่ง สวนแบบนี้เน้นการใช้งานให้หยิบจับได้สะดวก โดยจะแยกชนิดในแต่ละพื้นที่อย่างชัดเจน อาจแบ่งสัดส่วนด้วยการปูพื้นด้วยไม้ระแนงเทียมสลับกับพื้นดินเปล่าสำหรับปลูกสมุนไพร ไม้ระแนงสามารถทนแดดทนฝนและยังทำให้สวนสมุนไพรของเราดูโปร่งโล่งสบายตาได้ การเอาโต๊ะเก้าอี้มาวางก็ช่วยเพิ่มมิติให้กับสวนสมุนไพรของเรา แถมยังได้พื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนเพิ่มอีกจุดหนึ่ง
หากอยากได้บรรยากาศร่มรื่นเขียวขจีคล้ายป่า แนะนำให้ทำเป็นสวนหย่อมที่มีบ่อน้ำหรือน้ำพุ แล้วปลูกพืชสมุนไพรแซมหรือปลูกร่วมกับไม้ประดับก็ได้ ภายในสวนอาจวางโขดหินเพื่อจำลองให้ดูคล้ายป่าที่มีลำธาร ส่วนบ่อน้ำก็สามารถก่ออิฐหรือวางหินให้ลดหลั่นสลับกัน แต่สวนลักษณะนี้ก็ต้องเลือกชนิดสมุนไพรให้ดี เพราะสวนมีความชื้นสูง ถ้าสมุนไพรที่อยากปลูกทนชื้นได้ไม่ดี ก็มีเทคนิคง่ายๆ ด้วยการปลูกไม้ประดับทนน้ำล้อมบ่อไว้ก่อนรอบหนึ่ง แล้วค่อยปลูกพืชสมุนไพรรอบนอกให้ลดหลั่นกันลงมา
เริ่มต้นการจัดบ้านด้วยการหยิบของที่วางเกลื่อนออกมากองรวมกัน เพื่อเปิดพื้นที่ว่างให้กับบ้าน ขั้นตอนนี้จะทำให้เราพอเห็นภาพและวางแผนการจัดบ้านได้ง่ายขึ้น แนะนำให้เริ่มรื้อของไปทีละส่วน อย่าเพิ่งเอาออกมาทั้งหมดในทีเดียวไม่เช่นนั้นอาจมีท้อได้ ยกตัวอย่าง หากเก็บห้องครัวก็ให้เริ่มจากตู้เย็นหรือตู้เก็บของก่อน ส่วนห้องนอนก็อาจเริ่มจากพื้นที่ที่ใช้บ่อยไล่ไปตามลำดับ เช่น เตียงนอน โต๊ะข้างเตียง ตู้เสื้อผ้า เป็นต้น
สำหรับคนที่มีพื้นที่สวนน้อยหรืออยากเก็บไว้ทำอย่างอื่น ก็ยังมีสวนสมุนไพรอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มาก นั่นคือสวนสมุนไพรแนวตั้ง ก่อนอื่นให้ปลูกสมุนไพรลงกระถางขนาดเท่าๆ กัน อาจเป็นกระถางดินเผาหรือกระถางพลาสติกก็ได้ แล้วจึงนำไปตั้งบนชั้นไม้ หรือไม่ก็แขวนห้อยลงมา ถ้าปลูกจนหนาแน่นก็จะได้ผนังเป็นสีเขียวสวยงามจากพืชสมุนไพรในสไตล์โมเดิร์นแต่ยังให้บรรยากาศร่มรื่นอยู่ ช่วยเพิ่มมิติให้ผนังดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
สมุนไพรบ้านเรานั้นมีมากมายหลากหลายให้เลือกปลูกไว้ในสวนสมุนไพร บทความนี้เราขอหยิบยกตัวอย่างสมุนไพรที่นิยมนำมาปลูกกัน 5 ชนิด ดังนี้
- ตะไคร้หอม จุดเด่นคือกลิ่นหอมเฉพาะตัว นิยมสกัดเป็นน้ำมันตะไคร้ ไล่ยุง ไล่แมลง มีสรรพคุณช่วยขับโลหิต แก้อาการท้องแน่น ขับลม ขับปัสสาวะ
- คาโมมายล์ ลักษณะคล้ายดอกเก๊กฮวย ใช้ชงเป็นชาดื่มได้ ช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย ลดอาการอักเสบของผิวหนัง และทำให้หลับสบาย
- พาสลีย์ เครื่องเทศฝรั่ง อาจมีกลิ่นฉุนอยู่บ้าง แต่ให้สรรพคุณสารพัด ทั้งลดอาการคัดจมูก ขับเสมหะ แก้อาการหายใจไม่สะดวก ลดความดัน และยังเป็นตัวให้กลิ่นรสในอาหารเมนูฝรั่งได้ด้วย
- ลาเวนเดอร์ ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ ทำเป็นน้ำมันหอมระเหยช่วยผ่อนคลายได้
- เสจ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม อาหารไม่ย่อย เอามาสูดดมก็จะช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล สามารถทำเป็นน้ำมันหอมระเหยมานวดเพื่อแก้อาการเหน็บชาได้
ทั้งนี้ การเลือกพืชสมุนไพรต้องดูรายละเอียดอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น แสงแดด ความชื้น ความทนทาน ตำแหน่งในการปลูก และแนะนำสำหรับมือใหม่ให้ติดป้ายบอกชื่อเอาไว้ด้วย เพราะเป็นปกติที่เรามักเผลอจำผิดจนดูแลไม่ถูกวิธี เท่านี้เราก็สามารถมีสวนสมุนไพรสีเขียวในสไตล์โมเดิร์น ที่มาพร้อมกับประโยชน์สารพัดอย่าง